การวางแนวความคิดของเว็บไซต์ที่ชัดเจนจะช่วยทำให้การวางรูปแบบและองค์ประกอบต่างๆที่จะช่วยทำให้คนทั่วไปสามารถจดจำได้อย่างชัดเจนและระลึกได้ หากแนวความคิด (Concept) ของคุณไม่สอดคล้องกับตัวเว็บไซต์ก็จะทำให้ผู้ใช้บริการอาจจะเกิดความไขว้เขวในการจดจำเว็บไซต์หรือแบรนด์ของคุณ
2. ลักษณะการออกแบบเว็บไซต์
รูปแบบลักษณะการออกแบบเว็บไซต์ต้องมีความโด่ดเด่น และมีลักษณะเฉพาะตัวของกิจการ เช่น
การใช้สีสัน ที่มีความเป็นเฉพาะตัวและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายที่จะใช้บริการ
การวางรูปแบบหรือเลย์เอาท์ ของตัวเว็บไซต์ ให้มีความเหมาะสมกับรูปแบบของข้อมูลและรูปแบบของเว็บไซต์
การใช้โลโก้ที่มีความโดดเด่นและเข้ากับรูปแบบและบริการของเว็บไซต์ การออกแบบโลโก้ต้องมีลักษณะเฉพาะและสามารถจดจำได้ง่าย
3. สไตล์การเขียน
ลักษณะการเขียนข้อมูลภายในเว็บไซต์ถือว่าเป็นรูปแบบที่น่าสนในอีกรูปแบบหนึ่งที่จะช่วยทำให้การสร้างเอกลักษณ์ของเว็บไซต์ ผู้ใช้บริการสามารถจดจำเว็บไซต์กิจการได้ ด้วยลักษณะการเขียนข้อมูลที่อยู่ภายในเว็บไซต์ โดยรูปแบบและลักษณะการเขียนนั้นมีหลายรูปแบบและหลายสไตล์ เช่นใช้คำพูดแนวกันเอง, แนวตรงไปตรงมาหรือ อาจจะเป็นรูปแบบที่สนุกสนาน
4.มีความสอดคล้องกับแบรนด์สินค้าหรือบริการหลัก
หากกิจการมีสินค้าหรือบริการที่มีลักษณะของแบรนด์สินค้าอย่างชัดเจน รูปแบบของเว็บไซต์ก็ควรจะสอดคล้องกับรูปแบบของแบรนด์ของกิจการด้วย ด้วยทั้งสีหรือองค์ประกอบต่างๆ
5. การออกแบบและจัดสร้างเว็บไซต์ที่มีลักษณะเฉพาะตัวเองอย่างชัดเจน
จะช่วยสร้างคุณค่าของเว็บไซต์และช่วยทำให้ลูกค้า ที่เข้ามาใข้บริการสามารถจดจด และคุ้นเคยต่อเว็บไซต์ของกิจการได้ดีมาก ซึ่งการวางแผนที่ชัดเจนก่อนการสร้างเว็บไซต์ก็เพื่อต้องการให้เว็บไซต์มีรูปแบบลักษณะเฉพาะของตัวเองเป็นไปในรูปแบบไหนตั้งแต่แรก จะช่วยให้การพัฒนาเว็บไซต์นั้นมีแนวทางที่ชัดเจน และสามารถพัฒนาเว็บไซต์และข้อมูลทั้งหมดภายในเว็บไซต์เป็นไปในทิศทางเดียวกันได้ดี
Phase 1 : สำรวจปัจจัยสำคัญ (Research)
1. รู้จักตัวเอง-กำหนดเป้าหมายและสำรวจความพร้อม
2 .เรียนรู้ผู้ใช้-ระบุกลุ่มผู้ใช้และศึกษาความต้องการ
3. ศึกษาคู่แข่ง-สำรวจการแข่งขันและการเรียนรู้คู่แข่ง
สิ่งที่ได้รับ
1. เป้าหมายหลักของเว็บ
2. ความต้องการของผู้ใช้
3 .กลยุทธ์ในการแข่งขัน
Phase 2 : พัฒนาเนื้อหา (Site Content)
4 .สร้างกลยุทธ์การออกแบบ
5 .หาข้อสรุปขอบเขตเนื้อหา
สิ่งที่ได้รับ
1. แนวทางการออกแบบเว็บ
2. ขอบเขตเนื้อหาและการใช้งาน
3. ข้อมูลที่ถูกจัดอย่างเป็นระบบ
Phase 3 : พัฒนาโครงสร้างเว็บไซต์ (Site Structure)
6. จัดระบบข้อมูล
7. จัดทำโครงสร้างข้อมูล
8. พัฒนาระบบเนวิเกชัน
สิ่งที่ได้รับ
1. แนวทางการออกแบบเว็บ
2. ขอบเขตเนื้อหาและการใช้งาน
3. ข้อมูลที่ถูกจัดอย่างเป็นระบบ 7
Phase 4 : ออกแบบและพัฒนาหน้าเว็บ (Visual Design)
9. ออกแบบลักษณะหน้าตาเว็บ
10. พัฒนาเว็บต้นแบบและข้อกำหนดสุดท้าย
สิ่งที่ได้รับ
1. ลักษณะหน้าตาของเว็บ
2. เว็บต้นแบบที่จะใช้ในการพัฒนา
3. รูปแบบโครงสร้างของเว็บ
4. ข้อกำหนดในการพัฒนาเว็บ
Phase 5 : พัฒนาและดำเนินการ (Production & Operation)
11. ลงมือพัฒนาเว็บ
12. เปิดเว็บไซต์
13. ดูแลและพัฒนาต่อเนื่อง
สิ่งที่ได้รับ
1. เว็บที่สมบูรณ์
2. เปิดตัวเว็บและทำให้เป็นที่รู้จัก
3. แนวทางการดูแลและพัฒนาต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น